
Uncategorized
ชีวิต ทราย วรรณพร หลังออกวงการ
‘ทราย วรรณพร ฉิมบรรจง’ อดีตนางเอกที่มีชื่อเสียงมากในยุค 90 โดยเริ่มเข้าวงการจากการประกวด ‘มิสทีนไทยแลนด์’ ปี 2539

และก็มีชื่อเสียงจากการแสดงละครเรื่อง ‘แม่ย่านาง’ โดยรับบทบาท ‘เมธาวลัย’ หรือ ‘เมธ์’ ซึ่งเป็นนางเอกของเรื่อง หลังจากนั้นได้สร้างชื่อเสียงของเธอ

และก็ส่งผลงานละครฯลฯ ด้านการแสดงภาพยนตร์ เธอได้รับโอกาสแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘ถนนนี้หัวใจข้าจอง’ คู่กับ ‘เจ มณฑล’

ส่งผลงานละครเรื่องสุดท้ายของสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 คือเรื่อง ‘กระต่ายหลงจันทร์’ ก่อนที่จะห่างหายจากวงการไปช่วงหนึ่ง

แล้วก็เมื่อภายหลังจากพิสูจน์ตัวเองได้ ผู้ใหญ่ก็ให้โอกาสเธอกลับมาเล่นละครอีกครั้ง แม้ว่าจะเกิดจุดพลิกผันครั้งใหญ่ของชีวิตที่ทำให้ ‘ทราย’ ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเธอคือผู้บริสุทธิ์

แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอค้นพบตนเอง จนกระทั่งเกิดจุดแปลงอีกทีหนึ่งเป็น“คุณไม่เหมาะสมกับการเป็นศิลปิน” คุณก็เลยเลือกออกจากวงการบันเทิง

และก็เล่าว่า ภาพของความเป็นดารามันยากกว่าการเป็นนักแสดงเพราะว่าจะต้องวางตัวเยอะ ไม่มีอิสระในการใช้ชีวิต จะต้องแต่งหน้าแต่ละวัน ใส่ใจภาพลักษณ์ของตัวเองเยอะ

กระทั่งคิดว่าไม่สนุก แต่ว่าก็มีผู้ใหญ่ก็รอป้อนงานให้ ‘ทราย’ คิดว่ามันไม่เหมาะ ด้วยอายุเพียงแค่ 25 ปี เลยอยากทำงานด้านอื่นเพื่อค้นหาตัวเองไปด้วย

ช่วงหลัง ‘ทราย’ ได้ลองศึกษางานศิลปะ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณรักอีกอย่างหนึ่งอย่างจริงจัง ตอนนี้ ‘ทราย วรรณพร’ มีความสุขกับในสิ่งที่คุณเลือก

‘ทราย’ ยังบอกอีกว่า ถึงคุณจะหันมาเอาดีทางด้านงานศิลปะแล้ว แต่ว่าเพื่อนๆในวงการก็ยังแวะเวียนมาหา นี่คือความสุขที่แท้จริงของชีวิตที่เธอได้เลือกเอง

“ในตอนนี้สนุกมากมายเลยค่ะ ภายหลังที่ออกมาจากวงการมาก็เริ่มมาทำงานของตัวเอง จริงๆเราไม่ได้มายที่ตัวเองต้องเป็นคนดังหรืออะไร

เราเพียงแค่อยากได้พื้นที่ส่วนตัวที่ตัวเองมีความสุข สมมุติว่าถ้าหากเราไม่มีงานทำจริงๆเราก็บางทีอาจจะไปเปิดร้านขายอาหาร มันก็จะเป็นร้านที่อร่อยที่สุด

เนื่องจากเราจะใช้ใจทำ พวกเราไม่ได้ต้องมีเงินเยอะๆพวกเราไม่ได้สนตรงนั้น แต่ว่าพวกเราจะไม่เป็นของสังคม เราจึงควรดูแลตัวเองได้

ศิลปะก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เราทำแล้วมีสมาธิและก็มีความสุข ก็เลยเริ่มขวนขวายเรียนรู้ด้วยตัวเอง จนกระทั่งไปเรียนต่อที่อินเดียเพื่อไปอยู่ในสังคมของศิลปะศิลปินล้วนๆ

และก็มีความคิดว่าเราได้อะไรกลับมา จนกระทั่งกลับมาแล้วเปิดของตัวเอง เพื่อที่เราจะได้มีพื้นที่เล็กๆของตัวเองให้เราได้หายใจบ้าง”
