ครั้งหนึ่งชายคนนี้เคยไปยืนอยู่จุดสูงสุดของวงการตลก และก็ยังได้แสดงภาพยนต์ รวมทั้งละครทีวีหลายเรื่อง สำหรับตลกชื่อดัง “ยาว ลูกหยี”

หลังห่างหายจากวงการบันเทิง เขาได้ไปใช้ชีวิตกับครอบครัว ณ บ้านเกิด อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร และก็ก่อนหน้าที่ผ่านมาเคยสัมภาษณ์

ผมประสบความสำเร็จในอาชีพเซลส์มาก เพราะว่าสินค้าขายดี บางทีขายกระทั่งหมดโกดัง ทำอยู่หลายปีพอมีเก็บ

ก็เลยเก็บรวบรวมเป็นสินสอด ไปสู่ขอ คุณพิชญา มาเป็นคู่ชีวิต อยู่กินกันมาจนถึงทุกวันนี้ ภายหลังลงหลักปักฐานสร้างครอบครัว

เขายังทำอาชีพเซลส์ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าออกบู๊ธตามห้างอีกราว 2 ปี จนถึง หม่ำ จ๊กมก ตลกรุ่นพี่ ซึ่งในขณะนั้นยังเป็นลูกน้องในคณะตลก เทพ โพธิ์งาม ไปพบปะเข้า

ก็เลยพูดชวนให้เปลี่ยนอาชีพ หน้าที่ในคณะตอนอยู่กับคุณหม่ำคือ ขนของ เก็บอุปกรณ์ฉิ่ง-ฉาบ วิกผม

กระทั่งปี 39 ตัวเล่นขาด เลยได้ขึ้นไปบนเวที แต่ว่ายังไม่ได้เล่นอะไรมาก เพราะว่าเล่นไม่เป็น แต่ว่าพออยู่ไปสัก 3-4 ปี เริ่มซึมซับมุขต่างๆ

จนถึงเกิดความคิดต้องการเป็นนักแสดงตลก ตอนเป็นเซลส์มีรายได้วันละ 250 บ. แต่ว่านักแสดงตลกตอนนั้น รายได้อย่างน้อยๆวันละ 4,000-5,000 บ

แล้วจะไปทำงานอะไรที่มีรายได้ดีเหมือนเล่นตลก ไม่มีแล้ว เห็นตลกหลายๆคนมีบ้าน มีรถ ผมเลยตั้งใจสักวันหนึ่งจะต้องเป็นตลกให้ได้

ร่วมงานกับ“หม่ำ จ๊กมก อยู่ได้ราว 3 ปีเศษ เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อ หยอง ลูกหยี ดาวตลกรุ่นพี่ ลาออกจากคณะ

ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม และก็ชักชวนให้คุณยาว มาร่วมตั้งคณะตลกร่วมกัน ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของฉายา ยาว ลูกหยี ที่ใช้หากินมาถึงปัจจุบันนี้

“กว่าที่ผมจะมีตังค์ มีธุSกิจ มีชื่อเสียงได้อย่างเวลานี้ ไม่รู้ว่าผมล้มมาแล้วกี่ครั้ง ในตอนนั้นผมอยู่กับเมีย อยู่กับลูก แต่ว่าก็ไม่ได้อยู่ร่วมกันผมเข้ามาหางานทำที่กรุงเทพ

แบบมีเสื่อผืนเดียวหมอนก็ไม่มี มาได้งานเป็นเด็กอยู่ในแผนกตลกของ หม่ำ จ๊กม๊ก , ยาว ลูกหยี ทำทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ขนเครื่องดนตรี เก็บชุด เก็บวิก ล้างถ้วยล้างชาม ขนตู้

ทำงานจนกระทั่งเก็บได้ส่วนหนึ่งผมก็เลยกลับบ้านเพื่อไปหาเค้าเกือบปีที่พวกเราไม่ได้อยู่ร่วมกันแต่ว่าเค้าก็บอกทุกคนว่า “เค้ารอคอยผมอยู่คนเดียว” ผมซึ้งในน้ำใจเค้ามาก ทั้งยังอดทน อีกทั้งขยัน ทำงานเย็บผ้าไปด้วย