ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต แอ๊ด คาราบาว หรือ ยืนยง โอภากุล ผ่านมา 68 ปี ทั้งยังเรื่องในวงการบันเทิง ชีวิตส่วนตัว ไปถึงธรรมะแล้วก็อื่นๆอีกมากมาย

“ชีวิตของคนเรามาจาก ไม่ได้กระทั่ง ที่บ้านมีร้านค้า แต่ก็ไม่ได้มั่งคั่งเพราะตอนเข้ามาเรียนกรุงเทพก็ยังต้องมาอยู่วัดอาศัยข้าวก้นบาตร เป็นคนที่พ่อแม่ประหยัด

จำได้ว่าขณะที่เพราะผมใกล้ๆจะจากไปท่านบอกว่ามาจะแบ่งมรดกให้ลูก 6 คน พ่อมี 2 ล้านบาท แบ่งให้ลูกเสมอกัน พ่อทำงานมาทั้งชีวิตมีเงินเก็บแค่เพียง 2 ล้านบาท

นั่นเป็นชีวิตของบ้านเรา ก็ไม่ถึงกับจนกว่านะ ก็มีกินทุกๆวันไม่อด แม้กระนั้นเราก็สู้สู้แบบบ้านนอกมิได้มีวิธีคิดแบบอื่น ซื้อมาขายไป ตัวนี้สอนให้เพราะรู้สึกว่าถ้าหากว่าไปช่วยเหลือคน

ที่เขาทำมาหากินอย่างนี้ ดังนั้นใครจะบอกว่าพวกเราร่ำรวย แต่เราร่ำรวยเราไม่ได้ทำเรื่องที่ไร้สาระ อาจจะทำคาราบาวแดงเครื่องดื่ม

แต่ในส่วนหนึ่งที่อยากได้เข้าไปช่วยสังคมเราทำเรื่องนี้ พ่อคิดว่าวันนึงประชาชนจะเข้าใจว่าสิ่งที่เขาอาจจะเห็นว่าจากเพื่อชีวิตแล้วกลายแล้วเป็นมหาเศรษฐีมันทำไม

เปลี่ยนอุดมการณ์หรอ ไม่ใช่ นี่คือความความสำเร็จของผม ซึ่งผมก็ไม่รู้เรื่อง ถ้าหากว่าผมไม่มี ‘พี่เสถียร-พี่ใหญ่’ ผมไม่มีวันนี้แน่นอน ไม่มีทางทำไม่เป็น ชีวิตมีแต่ดนตรี

วันนี้เราพยายามตอบแทนแต่ไม่ใช่คำพูดแม้กระนั้นตอบแทนด้วยสิ่งที่ทำ” เล่นดนตรีมา 40-50 ปี สมัยก่อนเป็นคนใจร้อน เลยต้องใช้ธรรมะช่วยเยอะ ชีวิตคนเรามาถึงจุดหนึ่ง

ถึงคุณจะมีเงินมีทองล้นฟ้าคุณจะเก่งสามารถหาเลี้ยงชีพเขียนเพลงขับร้องอะไร ทุกวันนี้เป็นมหาเศรษฐีสุดแต่ยังเดินทางเล่นการแสดงดนตรี สิ่งที่ทำให้ยังเล่นอยู่เพราะว่ายังมีธุรกิจ

วันนึงข้างหน้าต้องใช้อยู่แล้ว ดังนั้นก็ยังต้องเดินต่อไป ดนตรี เป็นชีวิตของพ่อก่อนที่จะมาทำอย่างอื่นซึ่งประสบความสำเร็จ แต่พ่อก็ทิ้งไม่ได้เพราะว่าเพื่อนในวงยังเป็นคาราบาว

แล้วก็ยังต้องหากินอยู่ พ่อก็ต้องดูแลเขาแล้วหลังจากนั้นก็จะต้องเล่นไปกับเขา ที่สำคัญที่สุดชอบชีวิตแบบนี้ ไม่ถนัดเรื่องงานผมนับเงินไม่เป็นผมยังไม่รู้จักเลยว่าตังค์ผมมีมากแค่ไหน

ไม่ทราบเลยว่าผมมีบัญชีมีอะไรก็ให้ภรรยาดูแล ใช้เงินก็ไม่เป็นด้วยรถยนต์ที่ซื้อมาก็มือสองทั้งหมดไม่เคยซื้อใหม่” มีขนาดนี้แต่ใช้ชีวิตสมถะมาก เสื้อที่ใส่ก็บริษัทเอามาก็แค่ตัดแขน

แล้วหลังจากนั้นก็จ้างข้างๆบ้านเย็บ 40 บาทเพียงเท่านี้พอแล้ว ชื่อเสียงเงินทองลาภยศมีครบ สำหรับ ‘พ่อแอ๊ด’ มันไม่ได้เป็นคำตอบทั้งหมดของชีวิต ชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นมีความรักความสามัคคี

เป็นคำตอบของชีวิตที่ดีหยุดดื่ม ก็มาศึกษาธรรมะเพื่อใช้ธรรมะมาปลอบใจเรา มารักษาเรา ทางร่างกายโรงพยาบาลรักษาให้ได้ แต่ทางจิตใจต้องใช้พระพุทธศาสนา

พ่อก็เลยมุ่งเข้าพบพอพบ นี่แหละทุกวันนี้ก็เลยพยายามบอกลูกๆทุกคนแต่เขาก็ยังไม่ค่อยเชื่อทั้งยังภรรยาด้วย เขาก็ยังไม่ค่อยเชื่อว่าให้เรียนธรรมะ”